top of page
3.jpg
BG-BY-Final.png

Odoo ERP คืออะไร? ต่างจากโปรแกรมอื่น ๆ ตรงไหนบ้าง?

  • รูปภาพนักเขียน: Marketing Team
    Marketing Team
  • 1 ต.ค.
  • ยาว 3 นาที

อัปเดตเมื่อ 22 ต.ค.

แบนเนอร์หัวข้อ Odoo ERP คืออะไร? ต่างจากโปรแกรมอื่น ๆ ตรงไหนบ้าง?

Table of Contents



Key Takeaways


  • Odoo ERP เป็นระบบ ERP แบบ Open-source ที่เปิดให้นักพัฒนานำ Source Code ไปพัฒนาต่อให้เข้ากับอุตสาหกรรมและความต้องการเฉพาะทางได้ และยังเป็นระบบแบบ Cloud-Based ที่ทำงานได้เลยบนอินเทอร์เน็ต ไม่ต้องลงโครงสร้างพื้นฐานทาง IT ใหม่


  • โปรแกรม Odoo ERP เหมาะกับธุรกิจที่กำลังเติบโต ต้องการจัดการข้อมูลให้เป็นระเบียบ เป็นระบบมากยิ่งขึ้น หรือจะเป็นธุรกิจที่ใช้ ERP อยู่แล้ว อยากปรับเปลี่ยนให้เข้ากับความต้องการเฉพาะและงบประมาณที่มีก็ได้เช่นกัน


ระบบ ERP หรือระบบจัดการทรัพยากรทรัพยากร ถือเป็นตัวช่วยหนึ่งที่ขาดแทบไม่ได้แล้วในการทำธุรกิจยุคใหม่ เพราะนอกจากจะเก็บและจัดการข้อมูลได้อย่างเป็นระเบียบแล้ว ยังเป็นการรวมศูนย์การทำงานไว้ที่เดียวกัน เมื่อต้องการนำข้อมูลมาใช้สำหรับทำรีพอร์ตหรือประชุม ก็ทำได้อย่างสะดวกสบาย รวดเร็วมากขึ้น และยังนำข้อมูลไปวิเคราะห์ ตัดสินใจในการทำธุรกิจต่อได้อีกด้วย


ทุกวันนี้ระบบ ERP ก็มีให้เลือกอยู่หลายแบบ หลายแบรนด์ Odoo ERP เองก็เป็นซอฟต์แวร์อีกประเภทหนึ่งที่ตอบโจทย์การใช้งานในหลายธุรกิจ หลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่เล็กจนถึงใหญ่ และยังปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการเฉพาะแบบได้อีกด้วย วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับโปรแกรม Odoo ERP กันให้มากขึ้นว่ามีจุดเด่นตรงไหน และควรเลือกใช้อย่างไรดี


Odoo ERP คืออะไร?


Odoo ERP คือ ซอฟต์แวร์ ERP แบบ Cloud-Based ที่ออกแบบมาเพื่อจัดการและเชื่อมโยงข้อมูลภายในธุรกิจภายในโปรแกรมเดียว มีโครงสร้างแบบโมดูล (Module) แบ่งเป็นเครื่องมือต่าง ๆ ให้เลือกใช้งานตามความต้องการ เข้าถึงได้จากทุกที่ โดยไม่ต้องลงทุนด้าน IT เพิ่มเติม  นอกจากนี้ Odoo ยังเปิดให้ผู้พัฒนานำ Source code ไปพัฒนาต่อตามความต้องการเฉพาะของแต่ละธุรกิจได้

Odoo ERP คือ ระบบ Enterprise Resource Planning โดยบริษัทซอฟต์แวร์จากประเทศเบลเยียม ก่อตั้งในปี 2003 ให้บริการระบบ ERP แบบ Open-source โดยชื่อ Odoo ย่อมาจาก On-Demand Open Object ถือเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลก และมีผู้ใช้งานมากกว่า 12 ล้านคน ใน 120 ประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย


นอกจากนี้ Odoo ยังให้บริการในรูปแบบ Cloud-based SaaS (Software as a Service) ซึ่งผู้ใช้เข้าถึงระบบได้ผ่านอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องดูแลฮาร์ดแวร์หรือเซิร์ฟเวอร์เอง ธุรกิจไม่จำเป็นต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน IT เพิ่มเติม โดย Odoo จะรับผิดชอบการอัปเดต ความปลอดภัย และดูแลระบบเบื้องหลังทั้งหมด


สำหรับธุรกิจที่ยังไม่รู้จักกับซอฟต์แวร์แบบ SaaS ว่าคืออะไร น่าใช้งานอย่างไรบ้างนั้น อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่ SaaS (Software as a Service) คืออะไร? ต่างกับซอฟต์แวร์ประเภทอื่นตรงไหน


ระบบ ERP แบบ Open-source คืออะไร?


ระบบ ERP แบบ Open-source คือ ระบบ Enterprise Resource Planning ที่เปิด Source Code ให้ผู้พัฒนานำไปใช้งานได้อย่างอิสระ ปรับแต่งให้เหมาะกับธุรกิจต่าง ๆ ได้ พัฒนาให้เข้ากับความต้องการเฉพาะทางได้ โดย Odoo ERP เองก็มี Community ที่เปิดให้นักพัฒนาเข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้กันได้


อ่านความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับระบบ ERP ต่อได้ที่ ระบบ ERP คืออะไร? สรุปครบทำไมองค์กรถึงควรเลือกใช้


โมดูลหลักในระบบ Odoo ERP มีอะไรบ้าง?


โมดูลหลักในระบบ Odoo ERP ได้แก่ การขาย (Sales) บัญชี (Accounting)
สินค้าคงคลัง (Inventory) ทรัพยากรบุคคล (Human Resources) การผลิต (Manufacturing) จัดซื้อ (Purchase) จัดการโครงการ (Project Management) E-commerce และ POS

ภายในโปรแกรม Odoo มีซอฟต์แวร์ที่ให้เลือกหลายฟังก์ชัน ตั้งแต่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง การวางแผนการผลิต การติดตามลูกค้า ไปจนถึงขั้นตอนทางบัญชีการเงิน การจัดสรรดูแลพนักงาน และอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละองค์กรว่าจะเลือกปรับแต่งในรูปแบบใด เพื่อให้ออกแบบระบบได้ตอบโจทย์มากที่สุด 


  • การขาย (Sales) จัดการกระบวนการขาย ตั้งแต่ออกใบเสนอราคา รับข้อมูลการสั่งซื้อ เก็บสินค้า แพ็กสินค้า และจัดส่ง ตามรูปแบบ Oder Fulfillment ซึ่งจะทำงานร่วมกับฝ่ายบัญชีและสินค้าคงคลังได้อย่างราบรื่น

  • บัญชี (Accounting) ออกใบแจ้งหนี้ (Invoice) ติดตามรายจ่าย และทำรายงานด้านการเงิน โดยมั่นใจได้ว่าจะอยู่ภายใต้กฎหมายและข้อกำหนดที่จำเป็น

  • สินค้าคงคลัง (Inventory) ติดตามสินค้าในสต็อกแบบเรียลไทม์ ดูแลจัดการโกดังสินค้า และวิเคราะห์จัดการสินค้าคงคลังให้เหมาะสมกับความต้องการของตลาด

  • ทรัพยากรบุคคล (Human Resources: HR) จัดระเบียบข้อมูลพนักงาน ทั้งการลงเวลาทำงาน จัดการวันลา บัญชีเงินเดือน (Payroll) การสรรหาบุคคล ไปจนถึงติดตามประสิทธิภาพการทำงาน 

  • การผลิต (Manufacturing) เพิ่มประสิทธิภาพให้กับแผนการผลิต จัดตารางและควบคุมคุณภาพสินค้า รวมไปถึงวิเคราะห์กระบวนการทำงาน เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพพร้อมต้นทุนการผลิตที่ลดลง

  • จัดซื้อ (Purchase) ปรับปรุงกระบวนการในการจัดหาสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จัดการซัพพลายเออร์ และเปลี่ยนกระบวนการจัดซื้อให้เป็นอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น

  • จัดการโครงการ (Project Management) ติดตามการทำงานต่าง ๆ ระยะเวลาและกำหนดส่งงาน ช่วยให้ขั้นตอนการทำงานระหว่างทีมมีประสิทธิภาพขึ้น

  • E-commerce และ POS จัดการร้านค้าออนไลน์และกระบวนการทำงานในร้านค้าปลีก ด้วยข้อมูลสินค้าคงคลังแบบเรียลไทม์ และข้อมูลต่าง ๆ ในธุรกิจ



จุดเด่นของระบบ Odoo ERP มีอะไรบ้าง?


5 จุดเด่นของระบบ Odoo ERP
1. เครื่องมือหลากหลาย ตอบโจทย์การใช้งาน
2. ยืดหยุ่น ปรับแต่งให้เข้ากับการทำงานได้
3. User-Friendly หน้าตาทันสมัย ใช้ง่าย
4. เชื่อมต่อข้อมูลได้แบบไร้รอยต่อ ปรับขนาดได้ตามธุรกิจ
5. พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ลดต้นทุนองค์กร

ระบบ ERP โดยทั่วไป มักจะมีความเหมือนกันทางด้าน Module ต่างๆที่องค์กรต้องใช้งาน อย่างไรก็ตาม ความครบครัน หรือ ความเหมาะสมในด้านการใช้งานของระบบก็ขึ้นอยู่ความต้องการขององค์กรที่ต้องการนำไปใช้


1. Odoo มีเครื่องมือหลากหลาย ตอบโจทย์การใช้งาน

Odoo ถือเป็นซอฟต์แวร์ที่มีเครื่องมือให้เลือกใช้ในทางธุรกิจได้ครบ ทั้งการขาย บัญชี การเงิน สินค้าคงคลัง การตลาด ไปจนถึงทรัพยากรบุคคล ทุกแผนกได้ใช้เครื่องมือเดียวกัน โดยไม่ต้องแยกกันไปตามแผน ทำงานได้ราบรื่นขึ้น ไม่ซับซ้อน และยังลดปัญหาการทำงานแบบ Silo หรือการทำงานแบบต่างคนต่างทำได้ด้วย


2. ยืดหยุ่น ปรับแต่งให้เข้ากับการทำงานได้

ด้วยการทำงานในรูปแบบ Module ที่แบ่งเป็นเครื่องมือต่าง ๆ Odoo จึงเป็นโปรแกรม ERP ที่ Implement ต่อได้สะดวก เลือกได้เฉพาะส่วนที่ต้องการใช้งาน บวกกับระบบแบบ Open-Source ที่ทำให้ปรับแต่งได้หลากหลายมากขึ้นไปอีก ช่วยให้นักพัฒนาปรับเปลี่ยนฟีเจอร์ ผสมผสาน หรือสร้างรูปแบบการทำงานใหม่ ๆ ขึ้นมาได้ ตอบโจทย์การใช้งานเฉพาะทาง หรือธุรกิจที่มีการทำงานซับซ้อน


3. User-Friendly หน้าตาทันสมัย ใช้ง่าย

สำหรับหน้า Interface ของ Odoo ก็จัดว่าเป็นโปรแกรมที่เป็นระเบียบ ใช้งานง่าย ถึงจะเป็นผู้ใช้ใหม่ก็เรียนรู้ได้เร็วขึ้น อีกทั้งส่วนต่าง ๆ ในหน้าแดชบอร์ด ก็ปรับให้เข้ากับรูปแบบการทำงานได้ ใช้งานได้อย่างสะดวก ที่สำคัญ Odoo ยังรองรับการใช้งานทั้งในเดสก์ท็อป แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน เข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวกสบายทุกที่ ทุกเวลา


4. เชื่อมต่อข้อมูลได้แบบไร้รอยต่อ ปรับขนาดได้ตามธุรกิจ

Odoo เป็นระบบที่ออกแบบมาให้แต่ละโมดูลทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น และยังเชื่อมต่อกับโปรแกรมอื่น ๆ ได้ เช่น ช่องทางการชำระเงิน (Payment Gateways) แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ส และซอฟแวร์ด้านการตลาด ที่สำคัญยังปรับขนาดให้เติบโตตามธุรกิจได้ ทั้งเพิ่มผู้ใช้งาน ฟีเจอร์ หรือแม้แต่ขยายพื้นที่ใช้งาน โดยไม่ต้องกังวลว่าการทำงานจะสะดุด


5. พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ลดต้นทุนองค์กร

โดยทั่วไปบริษัทที่ใช้ระบบ ERP มักปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงระบบทุก ๆ 5-10 ปี เพื่อให้ทันกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งในด้านความปลอดภัยและการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งกระบวนการนี้มักมีต้นทุนสูง ทั้งในการติดตั้งระบบใหม่และการฝึกอบรมพนักงาน Odoo เป็นโปรแกรม ERP ที่มีการพัฒนาและอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าระบบยังคงตอบสนองความต้องการและทันสมัยอยู่เสมอ



Odoo ERP ต่างจากโปรแกรม ERP อื่น ๆ อย่างไร?

หัวข้อเปรียบเทียบ

Odoo ERP

SAP

Oracle NetSuite

Microsoft Dynamics 365

รูปแบบระบบ

Open-source + Cloud

Cloud & On-premise

Cloud-based

Cloud & Hybrid

ขนาดธุรกิจ

SME–Enterprise (ปรับได้ตามงบ)

Enterprise ขนาดใหญ่

Enterprise และองค์กรข้ามชาติ

SME–Enterprise

ค่าใช้จ่าย

ขึ้นกับโมดูล และ Implementor

สูงมาก (License + Maintenance)

สูง (Subscription + Implementation)

ปานกลางถึงสูง (License + Customization)

ความยืดหยุ่น

ปรับแต่งได้สูง (โมดูลอิสระ)

ปรับแต่งได้น้อยกว่า ต้องใช้มาตรฐาน

ปรับแต่งได้ แต่ค่าใช้จ่ายสูง

ปรับแต่งได้ระดับกลาง

โมดูลหลัก

Accounting, Sales, HR, Inventory, Project, E-Commerce ฯลฯ

Finance, Supply Chain, HR, Procurement

Finance, CRM, HR, Supply Chain

Finance, CRM, HR, Supply Chain


เลือก Odoo ERP อย่างไรให้เหมาะกับธุรกิจ


เลือก Odoo ERP อย่างไรให้เหมาะกับธุรกิจ
1. ผู้เริ่มต้นใหม่ สำหรับธุรกิจที่เริ่มเติบโต ควรเริ่มจากการประเมินความต้องการ ขั้นตอนการทำงาน และความต้องการเฉพาะของแต่ละแผนก 
2. ธุรกิจที่ใช้ ERP อยู่แล้ว
ควรมีที่ปรึกษาที่เข้าใจธุรกิจ ช่วยออกแบบระบบให้ตรงความต้องการ และถ่ายโอนข้อมูลอย่างปลอดภัย พร้อมอบรมการใช้งานให้กับพนักงาน

  • สำหรับผู้เริ่มต้นใหม่


สำหรับธุรกิจที่เริ่มเติบโต กำลังมองระบบ ERP มาใช้งาน จัดการทรัพยากรภายใน จัดระเบียบข้อมูลให้เป็นระบบ ควรเริ่มจากการประเมินความต้องการของแต่ละแผนก โดยเริ่มสำรวจจากคนทำงานจริง ขั้นตอนการทำงานต่าง ๆ ความต้องการเฉพาะทาง และดูว่าใครจะจำเป็นต้องใช้ระบบบ้าง เพื่อให้ออกแบบระบบได้อย่างเหมาะสม ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด



  • สำหรับธุรกิจที่ใช้อยู่แล้ว และกำลังมองหา ERP ใหม่


สำหรับองค์กรที่กำลังมองหา ERP ตัวใหม่ มักจะเป็นโจทย์ที่ท้าทาย เนื่องจากมีข้อมูลเดิมในระบบอยู่แล้ว และทางผู้ใช้งานก็มีความคุ้นชินกับระบบเดิม ดังนั้นจึงต้องมีการพูดคุยเรื่องการถ่ายโอนข้อมูลเดิมในระบบ (Migration) ไปในระบบใหม่ และมีการสอนการใช้งาน รวมถึงการ Customize ระบบบางอย่างให้ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด ซึ่งมักจะมีรายละเอียดเชิงลึกในการติดตั้งและพัฒนา มากกว่าการนำ Platform ไปติดตัังในองค์กรใหม่



Implementor ผู้ช่วยสำหรับธุรกิจที่อยากใช้ Odoo ERP


สำหรับการใช้งานระบบ Odoo ERP ในธุรกิจ Implementor หรือผู้พัฒนาระบบ ถือเป็นอีกทางเลือกที่ทำให้ทุกธุรกิจได้ระบบที่ตรงความต้องการมากที่สุด เพราะทีม Implementor จะมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบ ติดตั้ง ระบบให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะทางในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงบริการซับพอร์ตหลังการใช้งานด้วย


เนื่องจากระบบ ERP มีความเกี่ยวข้องกับงานหลายส่วน ทำให้ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญที่มีความเข้าใจทางด้านการจัดการ และมีประสบการณ์ในการติดตั้งระบบ ERP เข้ามาสำรวจความต้องการ เพื่อให้การติดตั้งเป็นไปได้อย่างราบรื่น ครบถ้วนตามความต้องการ ซึ่งมีหลายกรณีที่บางครั้งบริษัทที่ไม่มีประสบการณ์ไม่สามารถส่งมอบงานได้ เนื่องจากออกแบบระบบได้ไม่ตรงจุดเพราะไม่เข้าใจการทำธุรกิจ หรือเกิดปัญหาทางด้านเทคนิคจนทำให้ไม่สามารถส่งงานตามสัญญาได้



คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Odoo ERP

1. Odoo ERP คืออะไร?

Odoo ERP คือ ระบบบริหารจัดการองค์กร (Enterprise Resource Planning) แบบ Open-source ที่ทำงานในรูปแบบโมดูล ผู้ใช้งานออกแบบและปรับแต่งได้ตามความต้องการ โดยเลือกเฉพาะโมดูลที่ต้องการ เช่น บัญชี การขาย คลังสินค้า หรือ HR และปรับขยายได้ตามการเติบโตของธุรกิจ

2. Odoo ERP เหมาะกับธุรกิจประเภทใด?

Odoo ERP เหมาะกับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ SMEs และ Startup ที่ต้องการระบบสำหรับเก็บข้อมูลของแผนกต่าง ๆ ให้เป็นระบบ โดยใช้ต้นทุนไม่สูงนัก ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการอัปเกรดหรือเปลี่ยน ERP ให้ตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้น โดยเลือกเฉพาะโมดูลหรือฟีเจอร์ที่ต้องการใช้งานได้อย่างเหมาะสมที่สุด

3. ค่าใช้จ่ายในการใช้งาน Odoo ERP คิดอย่างไร?

ค่าใช้จ่ายของ Odoo ERP ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น จำนวนผู้ใช้งาน โมดูลที่เลือกใช้ และระดับการปรับแต่งระบบ สำหรับการใช้บริการ ERP Implementor ช่วยวางระบบ ออกแบบโมดูล และเชื่อมต่อข้อมูลให้เหมาะกับการทำงานจริง ค่าใช้จ่ายก็จะรวมทั้งค่าบริการของ Implementor และค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและดูแลระบบในระยะยาว

4. การติดตั้ง Odoo ใช้เวลานานเท่าไหร่?

การติดตั้ง Odoo ERP โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 6–8 เดือน หากเป็นโครงการที่มีหลายโมดูลและต้องเชื่อมต่อระบบอื่น อย่างไรก็ตามหากเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือความต้องการไม่ซับซ้อน ระยะเวลาอาจสั้นกว่านี้ได้ ทั้งนี้การทำงานร่วมกับ ERP Implementor จะช่วยวางแผนและติดตั้งได้รวดเร็วและราบรื่นยิ่งขึ้น


Backyard พร้อมให้บริการระบบ Odoo ERP สำหรับ Healthcare และอุตสาหกรรมอื่น ๆ


มี Implementor ที่เข้าใจรูปแบบการทำธุรกิจก็ประหยัดค่าทำระบบได้มากขึ้น ธุรกิจไหนที่สนใจใช้ระบบ ERP หรือต้องการปรับเปลี่ยนระบบที่มีอยู่แล้วให้ใช้งานได้แบบตอบโจทย์มากขึ้น Backyard พร้อมให้บริการแบบครบวงจร เพราะเรามีทีมงานที่มีประสบการณ์ เข้าใจการทำธุรกิจ 




ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Digital Ecosystem และติดตามข่าวสาร Backyard ได้ที่… 

📍โทร. 02-853-9131 (ในเวลาทำการ 10.00-18.00 น. วันจันทร์-วันศุกร์)

3.jpg

พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงองค์กรแล้วหรือยัง?

ติดต่อทีมงาน Backyard

ทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมติดต่อกลับ เพื่อมอบบริการที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด

bottom of page