top of page
3.jpg
BG-BY-Final.png

Cloud ERP คืออะไร? ทำไมน่าเลือกใช้งานภายในองค์กร

  • รูปภาพนักเขียน: Marketing Team
    Marketing Team
  • 11 พ.ย.
  • ยาว 3 นาที

ทำความรู้จักกับ Cloud ERP คืออะไร ต่างจาก On-premise ERP อย่างไรบ้าง และทำไมองค์กรยุคใหม่ถึงควรเลือกใช้เพื่อจัดการข้อมูล Back-Office ให้เชื่อมโยงกันอยู่ที่ศูนย์กลาง เข้าถึงง่ายขึ้น


Cloud ERP system concept with data management icons, showing benefits of using cloud-based ERP in organizations | ภาพแนวคิดระบบ Cloud ERP พร้อมไอคอนการจัดการข้อมูล แสดงประโยชน์ของการใช้ระบบ ERP บนคลาวด์ในองค์กร

Table of Contents



Key Takeaways 


  • ระบบ Cloud ERP คือ ระบบ ERP ที่ทำงานอยู่บน Cloud เข้าถึงได้ด้วยอินเทอร์เน็ตผ่านเว็บเบราว์เซอร์หรือแอปพลิเคชัน ทำให้เข้าถึงระบบได้ด้วยคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ตโฟน ช่วยรวมข้อมูลแผนกต่าง ๆ ไว้ที่ศูนย์กลาง เข้าถึงได้สะดวกรวดเร็ว


  • การเลือกใช้ Cloud ERP ช่วยให้องค์กรประหยัดต้นทุน เพราะไม่ต้องลงโครงสร้างพื้นฐานทาง IT ใหม่ รวมถึงค่าใช้จ่ายแบบ Subscription ที่เป็นแบบรายเดือนหรือรายปี ตามโมดูลที่เลือกใช้และจำนวนผู้ใช้งาน จึงยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ตามการเติบโตของธุรกิจ



ระบบ Cloud ERP ถือเป็นระบบหลังบ้าน (Back-Office) ที่ยืดหยุ่น ขยายได้ตามธุรกิจ โดยมีต้นทุนเริ่มต้นไม่สูงมากนัก ตอบโจทย์การทำงานของธุรกิจที่กำลังเติบโต เพราะไม่จำเป็นต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ช่วยควบคุมงบประมาณและวางแผนการเงินได้ดีขึ้น โดยยังคงเข้าถึงข้อมูลได้ที่ศูนย์กลาง นำมาต่อยอดได้เต็มประสิทธิภาพ สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก Cloud ERP System วันนี้ Backyard รวบรวมข้อมูลดี ๆ มาฝากกัน


ระบบ Cloud ERP คืออะไร?


Cloud computing icon over microchip on a circuit board, representing data upload and download technology | ไอคอนระบบคลาวด์บนไมโครชิปแสดงถึงเทคโนโลยีการอัปโหลดและดาวน์โหลดข้อมูลบนแผงวงจร

Cloud ERP คือ ระบบบริหารจัดการทรัพยากรองค์กร (Enterprise Resource Planning) ที่ให้บริการบนระบบ Cloud โดยผู้ให้บริการระบบจะเป็นผู้จัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูล การอัปเดตระบบ ความปลอดภัย ไปจนถึงการสำรองข้อมูล 


ทำให้องค์กรไม่ต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT แต่จะเป็นการจ่ายค่าบริการรายเดือนหรือรายปีในรูปแบบ ERP SaaS (Software as a Service) จึงประหยัดต้นทุนมากกว่าการลงทุนลงระบบใหม่ทั้งหมด ใช้จัดการข้อมูลได้หลากหลายแผนก เช่น การเงิน บัญชี คลังสินค้า การผลิต จัดซื้อ ฝ่ายขาย และทรัพยากรบุคคล ทำให้ข้อมูลอยู่ในแพลตฟอร์มเดียวที่เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ


Cloud ERP ทำงานอย่างไร?

การทำงานของ Cloud ERP

รายละเอียด

ประโยชน์ที่องค์กรได้รับ

บริการแบบเว็บโฮสติง (Web Hosting)

ระบบให้บริการบนเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการทั้งหมด รองรับการเข้าถึงผ่านเว็บเบราว์เซอร์หรือแอปพลิเคชันจากอุปกรณ์ใดก็ได้ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

  • เข้าถึงระบบได้จากทุกที่

  • ไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์

  • ใช้งานสะดวกจากหลายอุปกรณ์

ไม่จำเป็นต้องลงโครงสร้างพื้นฐานเพิ่ม

ไม่ต้องลงทุนด้านเซิร์ฟเวอร์ ฮาร์ดแวร์ หรือระบบเครือข่าย เพราะโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดอยู่ในความดูแลของผู้ให้บริการระบบ ERP

  • ลดต้นทุนเริ่มต้น

  • ลดภาระงานของทีม IT ภายในองค์กร

  • เริ่มใช้งานระบบได้รวดเร็ว

รวมข้อมูลไว้ที่ฐานข้อมูลกลางและทำงานเป็นโมดูล

ระบบจะเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้ในฐานข้อมูลกลาง และแบ่งการทำงานออกเป็นโมดูล เช่น บัญชี จัดซื้อ โดยข้อมูลเชื่อมโยงกันแบบอัตโนมัติ

  • ลดข้อมูลซ้ำซ้อน

  • ทำงานข้ามแผนกได้ราบรื่น

  • นำข้อมูลไปวิเคราะห์เพื่อวางแผนได้แม่นยำ

ดูแลระบบโดยผู้ให้บริการ (Managed Services)

ผู้ให้บริการดูแลระบบแบบครบวงจร ทั้งการบำรุงรักษา อัปเดต สำรองข้อมูล ระบบความปลอดภัย และการรับมือภัยคุกคามไซเบอร์

  • ไม่ต้องมีทีมขนาดใหญ่ดูแลระบบ

  • ระบบปลอดภัย ทันสมัย พร้อมใช้งาน

  • ลดความเสี่ยงจากปัญหาทางเทคนิค

จ่ายค่าบริการแบบ Subscription

คิดค่าบริการแบบรายเดือนหรือรายปี ตามจำนวนผู้ใช้หรือฟีเจอร์ที่เลือกใช้ ชำระตามการใช้งานจริงในรูปแบบ Subscription

  • วางแผนงบประมาณได้แม่นยำ

  • ปรับขนาดระบบได้ตามการเติบโตของธุรกิจ

  • ไม่ต้องลงทุนซื้อ License ถาวรล่วงหน้า

1. บริการแบบเว็บโฮสติง (Web Hosting)

Cloud ERP System จะให้บริการระบบบนเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการรับส่ง แลกเปลี่ยน และประมวลผลข้อมูล จะเกิดขึ้นบนเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการทั้งสิ้น จึงเข้าใช้งานผ่านเว็บเบราว์เซอร์หรือแอปพลิเคชันได้สะดวกสบาย ไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เฉพาะทาง และเข้าถึงข้อมูลได้จากทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต


2. ไม่จำเป็นต้องลงโครงสร้างพื้นฐานเพิ่ม

เพราะเข้าถึงได้ผ่านเบราว์เซอร์ การใช้งาน ERP on Cloud จึงไม่จำเป็นต้องลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งฮาร์ดแวร์ เซิร์ฟเวอร์ หรือระบบเครือข่ายภายในองค์กร เพราะผู้ให้บริการระบบให้บริการอย่างครบถ้วน จึงช่วยลดต้นทุนเริ่มต้น ไม่ต้องลงระบบใหม่ทั้งหมด และยังลดภาระของแผนก IT ได้อีกด้วย


3. รวมข้อมูลไว้ที่ฐานข้อมูลกลาง


Data center administrators analyzing system reports and performance dashboards to ensure optimal operations | ผู้ดูแลศูนย์ข้อมูลกำลังวิเคราะห์รายงานระบบและแดชบอร์ดประสิทธิภาพเพื่อให้การทำงานของระบบมีประสิทธิภาพสูงสุด

ข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในระบบ Cloud ERP จะจัดเก็บไว้ที่ฐานข้อมูลกลาง (Centralized Database) และทำงานแบบเป็นโมดูล (Modular) ซึ่งจะแบ่งเป็นโมดูลที่จำเป็นต่อธุรกิจ เช่น บัญชี การเงิน จัดซื้อ และโมดูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในองค์กร 


การทำงานแบบโมดูลนอกจากจะเลือกเปิดใช้งานตามการทำงานจริงได้แล้ว ยังเชื่อมโยงข้อมูลกันอย่างไร้รอยต่อ ทำงานเป็นอัตโนมัติ ช่วยลดการทำงานซับซ้อน ลดข้อผิดพลาดจากคน และยังนำข้อมูลไปวิเคราะห์ต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ


4. ดูแลระบบโดยผู้ให้บริการ

การใช้งาน Cloud ERP นั้น ผู้ให้บริการจะเป็นผู้ดูแลระบบแบบครบวงจร องค์กรที่ไม่มีแผนก IT หรือมีแผนก IT ขนาดเล็ก ไม่จำเป็นต้องลงทุนเรื่องคนเพิ่มติมเพื่อดูแลด้านเทคนิค โดยการดูแลระบบจะครอบคลุมตั้งแต่ 


  • การบำรุงรักษาระบบ (Maintenance) ผู้ให้บริการจะเป็นผู้ตรวจสอบและดูแลโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดของระบบอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อหรือข้อผิดพลาดภายในระบบ เพื่อให้ระบบพร้อมใช้งานตลอดเวลา

  • การอัปเดต (Automatic Updates) ผู้ให้บริการจะเป็นผู้อัปเดตระบบโดยไม่มี Downtime ที่กระทบต่อการทำงาน แก้ไขข้อบกพร่อง (Bug) หรือเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ภายในระบบ โดยผู้ใช้งานไม่ต้องดำเนินการใด ๆ เอง

  • การสำรองข้อมูล (Data Backup) ผู้ให้บริการจะมีระบบสำรองข้อมูลอัตโนมัติบน Cloud ที่ปลอดภัย รวมถึงการกู้คืนข้อมูลในกรณีฉุกเฉิน ลดความเสี่ยงต่อปัญหาข้อมูลสูญหายหรือระบบล่ม

  • การจัดการความปลอดภัย (Security Management) จัดการความปลอดภัยของข้อมูลด้วยการเข้ารหัสข้อมูล การควบคุมสิทธิ์การเข้าถึง และระบบตรวจสอบกิจกรรมของผู้ใช้งาน (Audit Logs) ให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล เพื่อป้องกันข้อมูลสำคัญรั่วไหล

  • ภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cybersecurity) ผู้ให้บริการจะมีระบบตรวจจับและป้องกันภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ รวมถึงคอยวิเคราะห์และติดตามเหตุการณ์ที่อาจกระทบต่อการทำงานในระบบ


5. จ่ายค่าบริการแบบ Subscription

ระบบ Cloud ERP ให้บริการในรูปแบบซอฟต์แวร์ SaaS (Software as a Service) ซึ่งหมายถึงผู้ใช้งานจะชำระค่าบริการแบบ Subscription เป็นรายเดือนหรือรายปีตามจำนวนผู้ใช้งาน ฟีเจอร์ที่เลือกใช้ หรือปริมาณพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ใช้งาน ซึ่งทำให้ระบบยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับการทำงานหรือการเติบโตของธุรกิจได้ และยังวางแผนงบประมาณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ด้วย



Cloud ERP ต่างจาก On-Premises ERP อย่างไร?


IT engineers monitoring data center performance and reviewing server code on dual screens | วิศวกรไอทีตรวจสอบประสิทธิภาพศูนย์ข้อมูลและตรวจโค้ดเซิร์ฟเวอร์บนหน้าจอคู่

หัวข้อเปรียบเทียบ

Cloud ERP

On-Premises ERP

การติดตั้ง

ติดตั้งผ่านระบบ Cloud โดยผู้ให้บริการทั้งหมด ไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์หรือฮาร์ดแวร์ภายในองค์กร

ต้องวางระบบโครงสร้างพื้นฐาน ติดตั้งซอฟต์แวร์และเซิร์ฟเวอร์ภายในองค์กรก่อนใช้งาน

จุดเด่น

  • ไม่ต้องลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน

  • ลดภาระทีม IT

  • อัปเดตเวอร์ชันอัตโนมัติ

  • รองรับการทำงานจากทุกที่

  • ขยายระบบได้รวดเร็วตามการเติบโต

  • ควบคุมระบบได้เต็มรูปแบบ

  • ปรับแต่งระบบได้ละเอียดตามต้องการ

  • ไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต

  • ความเร็วขึ้นอยู่กับโครงสร้างพื้นฐานในองค์กร

การเข้าถึงระบบ

เข้าถึงผ่านอินเทอร์เน็ต ด้วยเว็บเบราว์เซอร์ แอปพลิเคชัน ใช้ได้ทั้งในคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ตโฟน

ใช้งานได้เฉพาะภายในองค์กร หรือต้องเชื่อมต่อผ่าน VPN เพื่อเข้าถึงจากภายนอก

การดูแลรักษา

ผู้ให้บริการดูแลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการอัปเดตระบบ ความปลอดภัย และการสำรองข้อมูล

องค์กรต้องดูแลและบำรุงรักษาระบบเองทั้งหมด ตั้งแต่การอัปเดต ซ่อมบำรุง และสำรองข้อมูล

ค่าบริการ

คิดค่าใช้จ่ายแบบ Subscription รายเดือนหรือรายปี ตามจำนวนผู้ใช้งาน โมดูล ตามการใช้งานจริง

ต้องจ่ายค่า License ซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และค่าดูแลระบบ มีค่าใช้จ่ายล่วงหน้าสูง แต่ค่าใช้จ่ายระยะยาวอาจถูกกว่าหากใช้งานนาน

ความยืดหยุ่น

ปรับเพิ่มจำนวนผู้ใช้งาน โมดูล หรือการใช้งานอื่น ๆ ในระบบได้ง่ายและรวดเร็ว รองรับการเติบโตของธุรกิจ

มีข้อจำกัดตามโครงสร้างพื้นฐาน และต้องลงทุนเพิ่มหากต้องการขยายระบบ หรือผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้น

ความปลอดภัย

มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง เช่น ISO 27001, SOC 2, GDPR พร้อมระบบสำรองข้อมูลและตรวจสอบภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องโดยผู้ให้บริการ

ขึ้นอยู่กับการดูแลของทีม IT ภายใน หากไม่มีมาตรฐานหรือบุคลากรเพียงพอ อาจมีช่องโหว่เรื่องความปลอดภัย


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Cloud ERP

1. Cloud ERP คืออะไร?

Cloud ERP คือ ระบบบริหารจัดการทรัพยากรองค์กร (Enterprise Resource Planning) ที่ทำงานผ่านอินเทอร์เน็ต โดยระบบทั้งหมดจะโฮสต์อยู่บนเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการ ผู้ใช้งานจึงเข้าถึงระบบได้จากทุกที่ ทุกเวลา ผ่านเว็บเบราว์เซอร์หรือแอปพลิเคชัน โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งระบบในองค์กรเอง

2. Cloud ERP ต่างจาก On-Premise ERP อย่างไร?

Cloud ERP ต่างจาก On-Premise ERP ที่ Cloud ERP ไม่ต้องติดตั้งเซิร์ฟเวอร์หรือดูแลระบบภายในองค์กร ผู้ให้บริการเป็นผู้ดูแลระบบทั้งหมดและอัปเดตอัตโนมัติ ส่วน On-Premise ERP ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ในองค์กรและมีทีม IT ดูแลเอง Cloud ERP จึงเหมาะกับองค์กรที่ต้องการลดภาระงานด้านเทคนิคและเพิ่มความคล่องตัวในการใช้งาน

3. ระบบ Cloud ERP ปลอดภัยหรือไม่?

ระบบ Cloud ERP มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง เช่น การเข้ารหัสข้อมูล การควบคุมสิทธิ์ผู้ใช้ และการสำรองข้อมูลอัตโนมัติ ผู้ให้บริการมักผ่านการรับรองด้านความปลอดภัย เช่น ISO 27001 หรือ SOC 2 ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลขององค์กรจะถูกปกป้องจากความเสี่ยงทางไซเบอร์

4. Cloud ERP มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?

Cloud ERP มีค่าใช้จ่ายหลักเป็นแบบรายเดือนหรือรายปี (Subscription) โดยขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ใช้งาน โมดูลที่เลือก และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล อาจมีค่าติดตั้งเริ่มต้นหรือค่าปรับแต่งเพิ่มเติม ซึ่งช่วยให้องค์กรควบคุมต้นทุนได้ดี และไม่ต้องลงทุนล่วงหน้าในโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT

5. Cloud ERP ติดตั้งนานไหม?

การติดตั้ง Cloud ERP ใช้เวลาน้อยกว่าระบบแบบดั้งเดิมมาก เพราะไม่ต้องวางโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ส่วนใหญ่หากเป็นองค์กรขนาดเล็กถึงกลางที่ใช้โมดูลมาตรฐาน การเริ่มใช้งาน Cloud ERP ทำได้ภายใน 4 – 8 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของกระบวนการธุรกิจ หากเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่ทำงานซับซ้อน อาจใช้เวลา 3-6 เดือนขึ้นไป


Backyard พร้อมให้บริการโซลูชันที่สนับสนุนการทำงานด้านเฮลท์แคร์


HealthBiz ERP software for healthcare business management, helping organize accounting, finance, and drug inventory | ซอฟต์แวร์ HealthBiz ERP สำหรับบริหารธุรกิจด้านสุขภาพ จัดการบัญชี การเงิน และสต็อกยาอย่างครบวงจร

HealthBiz ERP ระบบ Cloud ERP สำหรับธุรกิจเฮลท์แคร์โดยเฉพาะ ช่วยจัดการงานหลังบ้าน (Back-Office) ไม่ว่าจะเป็นบัญชี การเงิน งานจัดซื้อ และงานเอกสารต่าง ๆ ของโรงพยาบาล คลินิก และสถานพยาบาลประเภทอื่น พร้อมรองรับการเชื่อมต่อกับระบบ MEDHIS เชื่อมโยงข้อมูลเข้าสู่ศูนย์กลาง ลดภาระเอกสาร เข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น


  • ออกแบบเพื่อธุรกิจเฮลท์แคร์โดยเฉพาะ ระบบ HealthBiz ERP ออกแบบมาสำหรับโรงพยาบาล คลินิก และสถานพยาบาลประเภทอื่น ๆ โดยทีมนักออกแบบและนักพัฒนาที่มีประสบการณ์ตรงกับโรงพยาบาลขนาดใหญ่

  • พร้อมเชื่อมต่อกับระบบ HIS HealthBiz ERP พร้อมเชื่อมต่อกับระบบ HIS ได้อย่างราบรื่น ช่วยรวมข้อมูลไว้ที่ศูนย์กลาง ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ที่จัดการงานหน้าบ้าน และเจ้าหน้าที่ Back-Office เข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว

  • Localized Features for Thailand ฟีเจอร์ที่สอดคล้องกับกฎหมาย ข้อกำหนดทางบัญชี ภาษี การจัดทำรายงาน และแนวปฏิบัติทางธุรกิจ ที่ตอบโจทย์การทำงานในประเทศไทย เช่น รายงานภาษีซื้อ-ขาย แบบฟอร์มหัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด. 3, ภ.ง.ด. 53) 

  • คุ้มครองข้อมูลให้ปลอดภัยตามข้อกำหนด ปกป้องข้อมูลสำคัญด้วยเทคโนโลยีการเข้ารหัส ตามมาตรฐานกฎหมายด้านสาธารณสุขระดับสากล การกำหนดสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลเฉพาะบุคคล รวมถึงเอกสารตามมาตรฐาน ISO



Backyard พร้อมให้บริการแบบครบวงจร ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ เข้าใจการทำธุรกิจ ทำให้ได้ระบบที่ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด สนใจระบบ HealthBiz ERP หรือระบบ ERP สำหรับธุรกิจอื่น ๆ ติดต่อเพิ่มเติมได้ที่



ติดตามข่าวสาร Backyard ได้ที่…

📍โทร. 02-853-9131 (ในเวลาทำการ 10.00-18.00 น. วันจันทร์-วันศุกร์)


3.jpg

พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงองค์กรแล้วหรือยัง?

ติดต่อทีมงาน Backyard

ทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมติดต่อกลับ เพื่อมอบบริการที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด

bottom of page