HRM คืออะไร? ทำไมถึงจำเป็นต้องมีในทุกองค์กร?
- Natthasich Bhuriphonsopong

- 1 ต.ค.
- ยาว 3 นาที
อัปเดตเมื่อ 11 พ.ย.

รู้จักกับ HRM หรือ Human Resource Management คืออะไร มีหน้าที่ทำอะไรบ้าง และทำไมการบริหารงานบุคคลด้านนี้ถึงสำคัญกับองค์กรทุกขนาดตั้งเล็กจนถึงใหญ่
Table of Contents
Key Takeaways
HRM (Human Resource Management) คือ การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ เป็นงานที่จะต้องวางแผนจัดการพัฒนาบุคลากรภายในองค์กรอย่างเป็นระบบ และถูกต้องตามกฎหมายแรงงานหรือระเบียบข้อบังคับอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้องค์กรไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้
หากวางแผนงานด้าน HRM ให้เป็นระบบ จะช่วยลดปัญหาที่เกี่ยวกับการบริหารคน คัดสรรบุคลากรได้เหมาะสมกับงานและวัฒนธรรมองค์กร ลดอัตราการลาออก และยังช่วยรักษามาตรฐานการทำงาน ลดต้นทุน และยังช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็วและมั่นคง
เพราะคนทำงานเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนองค์กรไปยังเป้าหมาย ทีมทรัพยากรบุคคล หรือ Human Resource (HR) จึงมีบทบาทในการวางแผนบริหารคนให้เหมาะสมกับการเติบโตของธุรกิจ โดยมีงานด้าน HRM หรือ Human Resource Management เป็นแนวทางหลักในการจัดการคนอย่างเป็นระบบ วันนี้ Backyard จะพาทุกคนไปรู้จักกับงานด้านนี้กันให้มากขึ้น ว่ามีหน้าที่และกระบวนการสำคัญอะไรบ้าง
Human Resource Management หรือ HRM คืออะไร?

HRM ย่อมาจาก Human Resource Management คือ การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ ครอบคลุมตั้งแต่การวางแผนบริหารจัดการบุคคล สรรหาพนักงาน ฝึกอบรมพัฒนาทักษะ และการประเมินผล รวมถึงวางแผนค่าตอบแทนและสวัสดิการ เพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรและพนักงาน รวมถึงการดึงศักยภาพของคนทำงานออกมาอย่างเต็มที่ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้สำเร็จ
หน้าที่หลักของ HRM มีอะไรบ้าง?
การทำงานของ HRM | หน้าที่หลัก |
การบริหาร (Strategic Management) | จัดสรรงบประมาณและวางแผนกิจกรรมด้านบุคคลให้สอดคล้องกับเป้าหมายองค์กร |
คาดการณ์และกำหนดจำนวนบุคลากรที่เหมาะสม เพื่อลดต้นทุนและสนับสนุนการเติบโต | |
วางแผนเงินเดือน โบนัส และสวัสดิการ เพื่อสร้างแรงจูงใจและรักษาพนักงานไว้กับองค์กร | |
ตั้งเป้าหมาย วัดผล และให้รางวัลอย่างยุติธรรม เพื่อพัฒนาศักยภาพพนักงาน | |
สร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี โปร่งใส และจัดการข้อร้องเรียนอย่างเป็นธรรม | |
การจัดการ (Operational Management) | วิเคราะห์ความต้องการบุคลากร และสรรหาคนที่เหมาะกับตำแหน่งและวัฒนธรรมองค์กร |
สร้างประสบการณ์ที่ดีให้พนักงานใหม่ ช่วยให้พนักงานปรับตัวเร็ว เข้าใจวัฒนธรรม และลดโอกาสลาออก | |
พัฒนาทักษะและความรู้ของพนักงาน ให้พร้อมปรับตัวและเติบโตไปกับองค์กร | |
ดูแลเรื่องสัญญาจ้าง สิทธิ สวัสดิการ และการเลิกจ้างให้ถูกต้องตามกฎหมายแรงงาน | |
แก้ไขและป้องกันความขัดแย้งในที่ทำงาน เพื่อให้ทีมทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น |
1. การบริหารงบประมาณและแผนปฏิบัติการ (Budget & Actions Plan)
HRM มีหน้าที่สำคัญในการบริหารทรัพยากรภายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการจัดสรรงบประมาณ และวางแผนกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การสรรหาบุคคล การฝึกอบรมเสริมทักษะการทำงาน และกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อวางแผนการบริหารงานบุคคลให้สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ
2. การวางแผนกำลังคน (Workforce Planning)
งานด้าน HRM ยังต้องคาดการณ์ความต้องการบุคลากรในอนาคตให้มีจำนวนเหมาะสมกับการทำงาน เพื่อให้ตอบสนองแผนการขยายหรือลดขนาดธุรกิจ การวางแผนกำลังคนล่วงหน้า จะช่วยพัฒนาการทำงานโดยรวม สร้างสภาพแวดล้อมที่ดี และยังช่วยลดต้นทุนให้กับองค์กรอีกด้วย
3. การบริหารค่าตอบแทนและสวัสดิการ (Compensation & Benefits)
การบริหารจัดการค่าตอบแทนและสวัสดิการแก่พนักงาน ตั้งแต่การวางแผนโครงสร้างเงินเดือน โบนัส และสวัสดิการ ทั้งที่เป็นเงินและไม่ได้เป็นเงิน เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายแรงงาน สอดคล้องกับเป้าหมาย รวมถึงสร้างแรงจูงใจ ดึงดูด และรักษาพนักงานที่มีความสามารถไว้กับองค์กร
4. การบริหารผลการปฏิบัติงาน (Performance Management)
การออกแบบระบบประเมินผลงานที่ชัดเจน ตั้งแต่การวางแผนเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้ การติดตามและประเมินผลว่าพนักงานปฏิบัติงานตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ ไปจนถึงการให้คำปรึกษาอย่างสม่ำเสมอ และให้ผลรางวัลตอบแทนเพื่อสร้างแรงจูงใจ
5. การบริหารความสัมพันธ์กับพนักงาน (Employee Relations)
การรักษาความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรและพนักงาน โดยมีหัวใจหลักเป็นการสื่อสารอย่างโปร่งใส รับฟังข้อร้องเรียนของพนักงานอย่างเป็นธรรม รับมือกับความขัดแย้งอย่างเหมาะสม รวมถึงดูแลสิทธิประโยชน์โดยรวมให้เป็นไปตามกฎหมายแรงงาน

6. การสรรหาและคัดเลือก (Recruitment & Selection)
นอกจากบริหารจัดการคนทำงานภายในองค์กรแล้ว HRM ยังมีหน้าที่วิเคราะห์ความต้องการของตำแหน่งงาน ว่าแต่ละแผนกมีกำลังคนมากเพียงพอแล้วหรือไม่ แล้วดำเนินการสรรหาบุคลากรที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งงานและวัฒนธรรมองค์กร
7. การปฐมนิเทศพนักงานใหม่ (Employee Onboarding)
หลังจากสรรหาบุคลากรแล้ว งานด้าน HRM ยังรวมไปถึงการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงานใหม่ด้วยการปฐมนิเทศพนักงานใหม่ (Onboarding) หาก HR ออกแบบกิจกรรมได้อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้พนักงานใหม่ปรับตัว และเรียนรู้วัฒนธรรมองค์กรได้อย่างรวดเร็ว รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และยังช่วยลดอัตราการลาออกได้อีกด้วย
8. การฝึกอบรมและพัฒนา (Training & Development)
เพื่อให้องค์กรขับเคลื่อนไปยังเป้าหมาย พนักงานจำเป็นต้องมีความพร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาความสามารถให้เท่าทันโลกอยู่เสมอ ดังนั้นงานด้าน HRM ยังเกี่ยวข้องกับการพัฒนาทักษะและความรู้ของพนักงาน ผ่านหลักสูตร คอร์สอบรม ไปจนถึงเวิร์กช็อปที่สอดคล้องกับความต้องการขององค์กรและตัวบุคคล
9. การจัดการกฎหมายและกฎระเบียบ (Law & Regulation)
งานด้านกฎหมายถือเป็นงานหลักของ HRM ซึ่งต้องวางแผนอย่างครอบคลุม ตั้งแต่การจ้างงานไปจนถึงการสิ้นสุดการจ้าง เช่น สิทธิและสวัสดิการพนักงาน การจัดทำสัญญาจ้าง และการดำเนินการทางวินัย จะต้องเป็นไปตามกฎหมายแรงงานและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
10. จัดการปัญหาความขัดแย้ง (Conflict Resolution)
เพราะองค์กรเป็นพื้นที่ที่รวมคนหลากหลายแบบไว้ด้วยกัน ความขัดแย้งจึงเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ งานของ HRM จึงเกี่ยวข้องกับการแก้ไขความขัดแย้งระหว่างพนักงาน รวมถึงวางแผนเพื่อป้องกันความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อให้พนักงานทำงานร่วมกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ทำไม HRM ถึงสำคัญต่อองค์กรทุกขนาด?

1. HRM ลดปัญหาที่เกี่ยวกับการบริหารคนในองค์กร
การจัดการงานด้าน HRM ที่ดีช่วยลดปัญหาด้านบุคลากร เช่น ปัญหาการสรรหาคน การพัฒนาทักษะพนักงาน การทำงานที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ ไปจนถึงปัญหาโครงสร้างใหญ่อย่างวัฒนธรรมองค์กร การมีระบบ HRM ที่ดีจะช่วยให้พนักงานมีความผูกพันและมีความสุขกับการทำงาน ส่งผลให้องค์กรเดินหน้าได้อย่างราบรื่น
ปัญหาด้านคนที่พบบ่อย | วิธีแก้ปัญหาด้วย HRM |
หาคนเก่งได้ยากและรักษาคนไม่อยู่ | กลยุทธ์การสรรหาที่ชัดเจนและระบบค่าตอบแทนที่แข่งขันได้ องค์กรจะดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีคุณภาพได้ |
ทีมงานขาดทักษะและไม่เติบโต | แผนพัฒนาบุคลากรที่เหมาะสม ช่วยให้พัฒนาตนเองได้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ดียิ่งขึ้น |
ปัญหาการทำงานที่ไร้ประสิทธิภาพ | ระบบการประเมินผลที่ชัดเจน เช่น KPIs, OKR ทำให้บริหารจัดการผลงานของพนักงานได้อย่างเป็นระบบและเป็นธรรม |
วัฒนธรรมองค์กรที่ไม่แข็งแกร่ง | การจัดการความสัมพันธ์ที่ดี เช่น การสื่อสารที่ชัดเจน สม่ำเสมอ การจัดกิจกรรมภายใน ทำให้พนักงานผูกพันและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับองค์กรมากขึ้น |
2. การจัดการงานด้าน HRM ที่ดี ช่วยขยายธุรกิจได้
การขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดได้อย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่เรื่องเงินทุนหรือการตลาดเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงเรื่องความพร้อมของคนทำงาน การวางแผนงานด้าน HRM ที่รัดกุม แข็งแกร่งจะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้เร็วเพราะ
ป้องกันการขาดแคลนคน เมื่อธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว ความต้องการคนก็จะเพิ่มขึ้น การวางกลยุทธ์งาน HRM ที่ดีจะช่วยให้วางแผนกำลังคนล่วงหน้าได้ ป้องกันปัญหาคนไม่พอต่อการทำงาน และยังช่วยให้องค์กรคาดการณ์งบประมาณด้านบุคคลให้สอดคล้องกับรายได้และเป้าหมายได้
รักษามาตรฐานการทำงาน การขยายธุรกิจมักมาพร้อมกับการจ้างคนจำนวนมาก การวางแผนบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลที่ชัดเจน เช่น การปฐมนิเทศพนักงานใหม่ (Onboarding) และการฝึกอบรมที่ได้มาตรฐาน จะช่วยให้พนักงานใหม่เข้าใจบทบาทและวัฒนธรรมองค์กรได้อย่างรวดเร็ว
สร้างวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง เมื่อทีมขยายใหญ่ขึ้น การสื่อสารและการรักษาค่านิยมร่วมกันจะทำได้ยากขึ้น HRM จะช่วยสร้างและรักษาวัฒนธรรมองค์กรที่ดี ทำให้พนักงานทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันและมุ่งไปในทิศทางเดียวกัน
ลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น ปัญหาขาดแคลนคนเก่ง ปัญหาพนักงานลาออกบ่อย และการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ ล้วนเป็นต้นทุนที่มองไม่เห็น การลงทุนวางแผนงานด้าน HRM ให้เป็นระบบ จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่าการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในอนาคต
HRM กับ HRD ต่างกันอย่างไร?
หัวข้อ | HRM (Human Resource Management) | HRD (Human Resource Development) |
นิยาม | การบริหารจัดการบุคลากรทั้งหมดในองค์กร ตั้งแต่การสรรหา ค่าตอบแทน ไปจนถึงการเลิกจ้าง ให้ตรงตามกฎหมายแรงงาน | การพัฒนาทักษะและเพิ่มศักยภาพบุคลากร เพื่อให้เติบโตไปพร้อมกับองค์กร |
เป้าหมาย | บริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ จัดการบุคลากรให้เหมาะสมกับองค์กร เพื่อให้องค์กรบรรลุเป้าหมาย | ทำให้บุคลากรมีความรู้ ทักษะ และศักยภาพเพิ่มขึ้น เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจ |
หน้าที่หลัก |
|
|
ตัวอย่างงาน |
|
|
แนวทางการบริหาร | เน้นการบริหารจัดการเชิงระบบ เพื่อให้ทรัพยากรบุคคลสอดคล้องกับเป้าหมายองค์กร | เน้นการลงทุนกับคนในระยะยาว โดยพัฒนาทักษะ สร้างการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน |

HRD (Human Resource Development) คือ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นงานด้าน HRM ที่เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการเพิ่มศักยภาพของพนักงาน ด้วยการพัฒนาทักษะซึ่งไม่ได้จำกัดแค่ Soft Skill และ Hard Skill เช่น การพัฒนาด้านทัศนคติ (Attitudes) การสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ (Learning Culture)
โดยงาน HRD จะต้องวางแผนการจัดการหรือวางกลยุทธ์การฝึกอบรม ให้กับพนักงานในรูปแบบต่าง ๆ เช่น เวิร์กชอป สัมมนา Coaching และ Mentoring เพื่อให้บุคลากรมีความรู้ ความสามารถ และความพร้อมที่จะเติบโตไปพร้อมกับองค์กรในระยะยาว
กลยุทธ์หรือตัวอย่างการทำ HRM ในองค์กรมีอะไรบ้าง?
HRM ที่มีประสิทธิภาพต้องบูรณาการทุกส่วนเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการสรรหา ฝึกอบรม ค่าตอบแทน และการประเมินผล เพราะหากส่วนใดส่วนหนึ่งเกิดปัญหา ก็อาจส่งผลกระทบต่อทั้งระบบและส่งผลต่อการเติบโตขององค์กรได้
หน้าที่ของ HRM | กลยุทธ์ด้าน HRM |
การบริหารงบประมาณและแผนปฏิบัติการ |
|
การวางแผนกำลังคน |
|
การบริหารค่าตอบแทนและสวัสดิการ |
|
การบริหารผลการปฏิบัติงาน |
|
การบริหารความสัมพันธ์กับพนักงาน |
|
การสรรหาและคัดเลือก |
|
การบริหารจัดการพนักงานใหม่ |
|
การจัดการกฎหมายและกฎระเบียบ |
|
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ HRM (Human Resource Management)
1. HRM คืออะไร?
HRM (Human Resource Management) คือ การบริหารจัดการบุคลากรในองค์กรอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่เริ่มจ้างจนถึงเลิกจ้าง ไม่ว่าจะเป็นการสรรหา การจัดการเงินเดือนและโบนัส พัฒนาทักษะ ดูแลข้อร้องเรียน ไปจนถึงการรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กรในระยะยาว
2. HRM ต่างจาก HRD อย่างไร?
งาน HRM (Human Resource Management) เน้นการบริหารจัดการคนในเชิงระบบ เช่น การสรรหา ค่าตอบแทน สวัสดิการ งานด้านกฎหมายแรงงาน ส่วน HRD (Human Resource Development) จะเน้นการพัฒนาทักษะ ความรู้ และศักยภาพของพนักงานเพื่อการเติบโตในระยะยาว
3. HRM สำคัญกับองค์กรไหม?
งานด้าน HRM สำคัญมากกับทั้งธุรกิจเล็กไปจนถึงใหญ่ เพราะ HRM ช่วยจัดการบุคลากรให้เหมาะสมกับงานและเป้าหมายองค์กร ป้องกันปัญหาขาดแคลนคนทำงาน รักษาคนเก่งมีคุณภาพ และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง
4. หน้าที่หลักของ HRM มีอะไรบ้าง?
หน้าที่หลักของ HRM เป็นการจัดการภาพรวมของบุคลากรในองค์กร ได้แก่ การวางแผนกำลังคน การสรรหาและคัดเลือก การบริหารค่าตอบแทนและสวัสดิการ การฝึกอบรมและพัฒนา การประเมินผลการทำงาน และการจัดการด้านกฎหมายแรงงาน
5. HRM ต่างกับ HRD และ HROD อย่างไร?
HRM (Human Resource Management) คือการบริหารจัดการบุคลากรในองค์กร ส่วน HRD (Human Resource Development) มุ่งเน้นการพัฒนาความรู้และทักษะของพนักงาน ขณะที่ HROD (Human Resource and Organization Development) เป็นการพัฒนาทั้งบุคลากรและองค์กรเข้าด้วยกัน เน้นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง การปรับโครงสร้าง และการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์
Backyard HR Solutions โซลูชันด้านบุคลากรสำหรับทุกองค์กร
Human Resource Management หรือ HRM จึงไม่ได้เป็นเพียงแผนกที่บริหารและจัดการเรื่องคนในองค์กรเท่านั้น แต่ยังเป็นแกนหลัก ที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน การวางแผนงาน HRM ที่ดี จึงเปรียบเสมือนการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง ให้ทุกธุรกิจพร้อมรับมือกับการขยายตัวในทุกมิติ
สำหรับองค์กรที่สนใจวางรากฐานด้านบุคลากรให้เป็นระบบ หรืออบรมพัฒนาทักษะให้กับพนักงานทุกระดับ ตั้งแต่ระดับผู้บริหารไปจนถึงระดับปฏิบัติการ Backyard พร้อมให้บริการ HR Solutions ครบวงจรพร้อมคอร์สอบรม In-House Training โดยผู้นำตัวจริงที่มีประสบการณ์ เพื่อให้องค์กรเดินหน้าได้อย่างมั่นคง พร้อมรับมือทุกการเปลี่ยนแปลง
ติดตามข่าวสาร Backyard ได้ที่…
📍โทร. 02-853-9131 (ในเวลาทำการ 10.00-18.00 น. วันจันทร์-วันศุกร์)
📍https://linktr.ee/backyard.group
📍Linkedin: www.linkedin.com/company/backyardth
📍Facebook: www.facebook.com/backyardTH
📍Youtube: www.youtube.com/@BackyardGroup







