top of page
3.jpg
BG-BY-Final.png

Enterprise Architecture สถาปัตยกรรมองค์กรคืออะไร? ปรับโครงสร้างองค์กรให้แข็งแกร่งและเป็นระบบ

  • รูปภาพนักเขียน: Backyard Team
    Backyard Team
  • 15 ก.ค. 2567
  • ยาว 3 นาที

อัปเดตเมื่อ 19 ก.ย.

Table of Contents



Key Takeaways

  • สถาปัตยกรรมองค์กร หรือ Enterprise Architecture คือแนวคิดด้านกลยุทธ์องค์กร ที่ช่วยปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรให้เป็นระบบ กระจายงานได้อย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้น

  • การใช้หลักสถาปัตยกรรมองค์กรจะช่วยแก้ปัญหาด้านการเชื่อมโยงข้อมูล และแก้ปัญหาคอขวดในองค์กร ช่วยให้การทำงานราบรื่นและมีประสิทธิภาพ


ree

ปฏิเสธไม่ได้ว่าโครงสร้างการทำงานที่เป็นระบบ เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้องค์กรเดินหน้าไปยังเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ สถาปัตยกรรมองค์กร หรือ Enterprise Architecture เป็นอีกหนึ่งกรอบแนวคิดที่ช่วยให้องค์กรทำงานอย่างเป็นระบบระเบียบมากขึ้น Backyard ขอพาทุกคนไปรู้จักกับแนวคิดนี้กันให้มากขึ้นว่า สถาปัตยกรรมองค์กรคืออะไร มีที่มาจากไหน และจะช่วยแก้ปัญหาองค์กรในด้านใดได้บ้าง


Enterprise Architecture หรือสถาปัตยกรรมองค์กรคืออะไร?


การเชื่อมโยงกันในองค์กร

Enterprise Architecture (EA) หรือสถาปัตยกรรมองค์กร คือ กรอบแนวคิดด้านกลยุทธ์ที่ช่วยจัดระบบขั้นตอนการทำงานภายในองค์กร ทั้งข้อมูล บุคคล และเทคโนโลยี โดยมีกลยุทธ์และเป้าหมายขององค์กรเป็นปัจจัยกำหนด 


นอกจากนี้ Enterprise Architecture ยังช่วยให้องค์กรมองเห็นภาพรวมการทำงานทั้งหมด ซึ่งจะช่วยให้การจัดการและการวางแผนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  โดยมีการวางพิมพ์เขียวองค์กร (Enterprise Blueprint) แบ่งการทำงานตามแผนกต่าง ๆ และการวาง Roadmap เพื่อให้องค์กรวางแผนการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด



วิวัฒนาการของสถาปัตยกรรมองค์กร


ปี 1987 Zachman Framework 

ในช่วงเริ่มต้นของการทำสถาปัตยกรรมองค์กร โดยพัฒนาตามกรอบแนวคิดแบบ Zachman Framework ซึ่งคิดค้นขึ้นโดย John Zachman ในปี ค.ศ. 1987 ซึ่งแนวคิดนี้ถือเป็นพื้นฐานของการทำสถาปัตยกรรมองค์ ช่วยแก้ไขความซับซ้อนของระบบในองค์กร และกำหนดแนวทางที่ชัดเจนผ่านมุมมองต่าง ๆ แบบรอบด้าน โดยจะเน้นที่การตั้งคำถามทั้ง 6 ด้าน และมุมมองผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 6 ด้าน ได้แก่ 

การตั้งคำถาม

มุมมองผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

อะไร (What)

ผู้บริหาร (Executive Perspective)

อย่างไร (How)

ผู้จัดการธุรกิจ (Business Management Perspective)

ที่ไหน (Where)

สถาปนิก (Architect Perspective)

ใคร (Who)

วิศวกร (Engineer Perspective)

เมื่อไร (When)

ช่างเทคนิค (Technician Perspective)

ทำไม (Why)

ระดับองค์กร (Enterprise Perspective)


ปี 1995 The Open Group Architecture Framework (TOGAF)

The Open Group Architecture Framework หรือ TOGAF เป็นกรอบความคิดในการจัดทำสถาปัตยกรรมองค์กรที่เจาะลึกถึงรายละเอียดของการพัฒนาทฤษฎี ซึ่งจะมีอยู่ทั้งหมด 4 องค์ประกอบ ได้แก่


  • สถาปัตยกรรมด้านธุรกิจ (Business Architecture) ให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์องค์กร กระบวนการธุรกิจ และการกำกับดูแลกิจการ

  • สถาปัตยกรรมด้านข้อมูล (Data Architecture) ให้ความสำคัญกับโครงสร้างข้อมูล ทั้งด้านความเป็นเหตุเป็นผล (Logical) และในรูปแบบที่จับต้องได้ (Physical)

  • สถาปัตยกรรมด้านแอปพลิเคชัน (Application Architecture) ความสัมพันธ์และการเชื่อมโยงแอปพลิเคชันกับกระบวนการทางธุรกิจ

  • สถาปัตยกรรมด้านเทคโนโลยี (Technology Architecture) การใช้ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ สำหรับจัดการโครงสร้างพื้นฐานทางสารสนเทศ (IT Infrastructure) ข้อมูล แอปพลิเคชัน และธุรกิจ 


ปี 2002 Federal Enterprise Architecture (FEA)

กรอบความคิดที่ต่อยอดมากจาก NIST (National Institute of Standards and Technology) มีลักษณะคล้ายกับ TOGAF แต่จะให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนองค์กรตามเป้าหมายที่ชัดเจน และเปลี่ยนผ่านสู่สถาปัตยกรรมองค์กรในอนาคต 


ปี 2011 TOGAF 9.1

TOGAF 9.1 เป็นกรอบความคิดของการทำสถาปัตยกรรมองค์กรที่พัฒนาจาก TOGAF เวอร์ชันแรกในปี 1995 โดยให้ความสำคัญกับการออกแบบ วางแผน ดำเนินการ และควบคุมการทำสถาปัตยกรรมองค์กรที่ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ มีองค์ประกอบหลักคือ Architecture Development Method (ADM) เป็นแนวทางในการพัฒนา และยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ เช่น Architecture Content Framework และ Enterprise Continuum


ปี 2020-ปัจจุบัน ยุคแห่ง Digital Transformation

ตั้งแต่ปี 2020-ปัจจุบัน Enterprise Architecture กลายเป็นแนวทางที่สำคัญสำหรับการเริ่มต้น Digital Transformation ในองค์กร ช่วยให้องค์กร ผสมผสานการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม เช่น Cloud Computing, Big Data และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) 



Enterprise Architecture Framework แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร?

EA Framework

จุดเด่น

เหมาะกับใคร

Zachman Framework

เน้นการจัดหมวดหมู่ข้อมูลองค์กรอย่างเป็นระบบ มององค์กรจากหลายมิติ (Who, What, When, Where, Why, How)

องค์กรที่ต้องการความชัดเจนในการทำ Data Architecture

TOGAF (The Open Group Architecture Framework)

ได้รับความนิยมสูงสุด มีขั้นตอน ADM ที่ชัดเจน ครอบคลุมทั้งสถาปัตยกรรมด้านธุรกิจ สถาปัตยกรรมด้านข้อมูล สถาปัตยกรรมด้านแอปพลิเคชันและสถาปัตยกรรมด้านเทคโนโลยี

องค์กรขนาดใหญ่ และองค์กรที่ทำ Digital Transformation อย่างจริงจัง


FEAF (Federal Enterprise Architecture Framework)

พัฒนาเพื่อการใช้งานในภาครัฐสหรัฐอเมริกา เน้นมาตรฐานกลางและการทำงานร่วมกัน (Interoperability)

หน่วยงานภาครัฐและองค์กรที่ต้องการมาตรฐานกลาง

Gartner EA Framework

รุ่นอัปเดตของ TOGAF ที่ปรับปรุง ADM ให้ทันสมัยขึ้น เพิ่มการสนับสนุนด้านการทำ Security Architecture และ Enterprise Continuum

องค์กรที่ต้องการ Framework มาตรฐานสากลที่อัปเดตและรองรับความต้องการด้าน Security


Enterprise Architecture เหมาะกับองค์กรแบบไหนบ้าง?

ประเภทองค์กร

ลักษณะสำคัญ

บทบาทของสถาปัตยกรรมองค์กร

องค์กรขนาดใหญ่

โครงสร้างซับซ้อน มีโครงสร้างพื้นฐานทาง IT หลายประเภท

ลดความซ้ำซ้อน เชื่อมโยงกระบวนการ และทำให้สอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กร

หน่วยงานรัฐ

ข้อมูลจำนวนมากจากหลายกรมกอง ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้

กำหนดมาตรฐานกลาง สร้างความเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน ขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล

องค์กรที่อยู่ในช่วง Digital Transformation

ต้องการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัล ลงทุนด้าน Cloud, AI รวมถึง Big Data

ทำหน้าที่เป็นพิมพ์เขียว (Blueprint) วางแผนการเปลี่ยนผ่าน ป้องกันความเสี่ยง และรองรับการเติบโต

ธุรกิจด้านสุขภาพ

ระบบหลายส่วน ข้อมูลผู้ป่วยจำนวนมาก ต้องคำนึงถึงกฎหมาย กฎระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ

สร้างมาตรฐานข้อมูล เชื่อมโยงระบบอย่างปลอดภัย และสอดคล้องกับกฎหมาย (PDPA, HIPAA)

1. องค์กรขนาดใหญ่การทำงานซับซ้อน

องค์กรขนาดใหญ่มักมีโครงสร้างธุรกิจที่ซับซ้อน ประกอบด้วยหลายหน่วยงาน และระบบไอทีจำนวนมากที่ต้องเชื่อมโยงกัน ทำให้การบริหารจัดการข้อมูลและกระบวนการทำงานอาจซ้ำซ้อนหรือไม่สอดคล้องกัน การทำ Enterprise Architecture จึงช่วยเป็นกรอบในการจัดระเบียบระบบทั้งหมดให้สอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กร ลดความซ้ำซ้อน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในระยะยาว


2. หน่วยงานภาครัฐมีหลายหน่วยงานย่อย

หน่วยงานภาครัฐมีภารกิจหลักในการให้บริการประชาชน และต้องรับผิดชอบข้อมูลจำนวนมากจากหลายกรมกองและหน่วยงานย่อย การทำสถาปัตยกรรมองค์กร ช่วยให้หน่วยงานต่าง ๆ กำหนดมาตรฐานกลางสำหรับข้อมูลและระบบสารสนเทศ ทำให้การทำงานระหว่างหน่วยงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้


3. องค์กรที่อยู่ในช่วง Digital Transformation

สำหรับองค์กรที่กำลังทำ Digital Transformation เพื่อเปลี่ยนผ่านให้เหมาะสมกับยุคดิจิทัล สถาปัตยกรรมองค์กรจึงมีหน้าที่เหมือนแผนที่ (Blueprint) ช่วยให้ปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น Cloud, AI หรือ Big Data ได้อย่างเป็นระบบและรองรับการเติบโตในอนาคตได้ดี EA ยังช่วยให้การลงทุนด้านเทคโนโลยีสอดคล้องกับเป้าหมายเชิงธุรกิจ และลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว


4. ธุรกิจด้านสุขภาพจัดการระบบที่หลากหลาย

ธุรกิจด้านสุขภาพ (Healthcare) ทั้งโรงพยาบาลและสถานพยาบาลประเภทต่าง ๆ มีข้อมูลมหาศาลและระบบหลายส่วนที่ต้องทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลผู้ป่วย บัญชีการเงิน เวชระเบียน รวมถึงระบบจัดซื้อ การทำ EA ช่วยสร้างมาตรฐานการจัดการข้อมูล ทำให้ระบบต่าง ๆ เชื่อมโยงกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งรองรับกฎหมายและมาตรการด้านความเป็นส่วนตัว เช่น PDPA และ HIPAA ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของธุรกิจด้านสุขภาพ



การจัดทำสถาปัตยกรรมองค์กรจะช่วยองค์กรได้อย่างไรบ้าง?


การทำงานร่วมกันในองค์กร


การจัดทำสถาปัตยกรรมองค์กรสามารถตอบโจทย์ในการแก้ไข 2 ปัญหาหลัก ๆ ดังนี้


1. ปัญหาด้านข้อมูล


สถาปัตยกรรมองค์กรถือเป็น ไม่ว่าจะเป็นองค์กรเล็กหรือองค์กรใหญ่ ต่างก็มีข้อมูลจำนวนมากที่ต้องใช้สำหรับทำงานในแผนกต่าง ๆ ซึ่งแต่ละกลุ่มการทำงาน ก็มักจะแยกการจัดเก็บข้อมูลอย่างกระจัดกระจาย ไม่รับรู้ถึงรูปแบบการทำงาน หรือข้อมูลที่แต่ละแผนกใช้งานอยู่ ทำให้ข้อมูลต่าง ๆ ไม่เชื่อมโยงกัน อาจเกิดปัญหาข้อมูลซ้ำซ้อน และอาจจะไม่สอดคล้องกับกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปในทุกวัน


  • สร้างเป้าหมายร่วมกัน สถาปัตยกรรมองค์กรช่วยวางเป้าหมายและกลยุทธ์ ด้วยการสร้างพิมพ์เขียวองค์กรที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ทุกแผนกเห็นภาพรวมของธุรกิจและงานที่จะต้องทำ ลดการต่างคนต่างทำงานได้ดียิ่งขึ้น

  • วางมาตรฐานขั้นตอนการทำงาน EA ช่วยสร้างมาตรฐานในการทำงานระหว่างแผนก ทั้งด้านหลักเกณฑ์ แพลตฟอร์ม และข้อมูลที่ต้องใช้ร่วมกัน ทำให้การสื่อสารและใช้ข้อมูลเป็นระบบมากยิ่งขึ้น 

  • ปรับปรุงการสื่อสารและประสานงาน EA ช่วยวางแผนการใช้งานเครื่องมือและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน รวมถึงระบบที่ควรใช้สื่อสารระหว่างกัน ทำให้การสื่อสารราบรื่น ปัญหาด้านการประสานงานลดลง 

  • รวมข้อมูลไว้ที่ศูนย์กลาง การออกแบบสถาปัตยกรรมองค์กร ให้ความสำคัญกับการรวมข้อมูลไว้ที่ศูนย์กลาง เพื่อให้ทุกแผนกสามารถเข้าถึง และนำข้อมูลไปวิเคราะห์ต่อได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น

  • การทำงานระหว่างทีมสะดวกขึ้น EA ช่วยให้การทำงานร่วมกันระหว่างแผนกต่าง ๆ เป็นไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น ลดช่องว่างระหว่างการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยี และยังช่วยให้ได้ความเห็นที่หลากหลายด้วย


2. ปัญหาคอขวดในการทำงาน


ปัญหาคอขวด (Bottleneck) ถือเป็นปัญหาใหญ่ ๆ ของหลายองค์กร ซึ่งทำให้ใช้เวลาในการทำงานนานกว่าปกติ ใช้งบประมาณมากกว่า กระทบต่อการทำงานภาพรวมขององค์กร เกิดปัญหากระบวนการทำงานล่าช้ากว่ากำหนด การเข้าถึงทรัพยากรต่าง ๆ ได้ยากขึ้น ไปจนถึง Workload และความผิดพลาดที่พบได้บ่อยมากขึ้น


การใช้สถาปัตยกรรมองค์กรเป็นกรอบแนวคิดในการแก้ปัญหาคอขวด ทำได้ตั้งแต่การวิเคราะห์ภาพรวม และระบบการทำงาน การเชื่อมโยงการทำงานกับกลยุทธ์ (Strategic Alignment) ไปจนถึงการปรับปรุงการใช้ทรัพยากรและเทคโนโลยีภายใน พร้อมติดตามการทำงาน เพื่อปรับปรุงให้เหมาะสม โดยมีกรอบการทำงานที่ชัดเจน 


ต้องการปรับโครงสร้างองค์กรให้เป็นระบบ ให้ Backyard ช่วยแนะนำ


สำหรับองค์กรที่มองหาเครื่องมือ ที่ช่วยปรับโครงสร้างภายในตามหลักสถาปัตยกรรมองค์กร Backyard พร้อมให้บริการ FLOWARD แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับพัฒนากลยุทธ์องค์กรในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับผู้บริหาร ระดับหัวหน้าแผนก ไปจนถึงระดับปฏิบัติการ โดยมี Dashboard สรุปการทำงานมากถึง 9 แบบ สำหรับการใช้งานในแผนกต่าง ๆ พร้อมเครื่องมือที่ช่วยลดเวลาการทำงาน ได้แก่ 


  • Vision Builder ตั้งเป้าหมายและวิสัยทัศน์จากสภาพแวดล้อม รับมือทุกความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลกได้อย่างทันท่วงที

  • Enterprise Blueprint เครื่องมือสร้างพิมพ์เขียวองค์กรแบ่งกลุ่มการทำงาน เพื่อให้มองเห็นการทำงานของแต่ละฝ่าย รวมถึงข้อมูลและเทคโนโลยีที่ใช้ร่วมกัน 

  • Design & Track Worksheet ใบงานติดตามงานของแต่ละบุคคล เชื่อมโยงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าด้วยกัน ทำให้มองเห็นปัญหาแต่ละจุดอย่างชัดเจน

  • Strategic Roadmap เครื่องมือแบ่งระยะความสำเร็จ มองเห็นระยะเวลาทั้งหมดของการทำงาน เพื่อมุ่งไปสู่จุดหมายตามระยะเวลาที่กำหนด และต่อยอดสู่ความสำเร็จอื่น ๆ



องค์กรยุคใหม่ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างให้ตอบโจทย์ Digital Transformation สามารถติดต่อเรา หรือกรอกแบบฟอร์มด้านล่าง หรือทางช่องทางอื่น ๆ ที่

โทร. 02-853-9131 (ในเวลาทำการ 10:00 - 18:00 น. วันจันทร์ - วันศุกร์)


ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Backyard ได้ที่


ที่มา


3.jpg

พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงองค์กรแล้วหรือยัง?

ติดต่อทีมงาน Backyard

ทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมติดต่อกลับ เพื่อมอบบริการที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด

bottom of page